
ค่ำคืนนี้ แฟนบอล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต่างต้องชั่งใจว่าจะปิดไฟนอนอย่างสบายใจ หรือควรตั้งนาฬิกาปลุกขึ้นมาชมเกมที่อาจเปลี่ยนชะตาของฤดูกาล เมื่อ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ภายใต้การนำของ มิเกล อาร์เตตา เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ หากอาร์เซนอลสะดุดพลาดท่า ลิเวอร์พูลจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที เพราะคะแนนจะขาดลอย
ลิเวอร์พูลยังคงรั้งจ่าฝูงด้วย 79 คะแนนจาก 33 นัด ขณะที่อาร์เซนอลตามมาเป็นอันดับสอง มี 66 คะแนนจากจำนวนนัดเท่ากัน เกมนี้จึงสำคัญยิ่งสำหรับทั้งสองทีม: หากอาร์เซนอลไม่ชนะ ลิเวอร์พูลจะการันตีแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 ในประวัติศาสตร์ทันที
สถิติและการวิเคราะห์ฟอร์มล่าสุดชี้ว่า อาร์เซนอลมีโอกาสคว้าชัยในเกมนี้สูงถึง 70% โอกาสเสมออยู่ที่ 19% และโอกาสที่คริสตัล พาเลซจะบุกคว้าสามแต้มมีเพียง 11% เท่านั้น อย่างไรก็ดี ในโลกของฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้ และพาเลซเองก็เพิ่งโชว์ฟอร์มเก่งด้วยการบุกแบ่งแต้มจากอาร์เซนอล 2-2 ในเกมล่าสุด
มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมชาวสเปนของอาร์เซนอล เป็นอดีตกัปตันทีมที่เคยผ่านการค้าแข้งกับบาร์เซโลนา, เรนเจอร์ส, เอฟเวอร์ตัน และจบอาชีพนักเตะกับอาร์เซนอล ก่อนจะผันตัวมารับบทผู้จัดการทีมในปี 2019 อาร์เตตาเคยคว้าแชมป์เอฟเอคัพในฐานะทั้งนักเตะและโค้ชให้กับอาร์เซนอล และพาทีมกลับมาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างจริงจังในยุคหลัง เขาได้รับการยอมรับในฐานะกุนซือรุ่นใหม่ที่เน้นแท็กติกและการพัฒนาเยาวชน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในช่วงหลังของทีม
คริสตัล พาเลซ สโมสรจากเซลเฮิร์สต์ พาร์ก มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 1905 แต่รากเหง้าของทีมย้อนไปถึงปี 1861 พาเลซเคยสร้างเซอร์ไพรส์จบอันดับ 3 ในลีกสูงสุดฤดูกาล 1990-91 และผ่านเข้าชิงเอฟเอคัพสองครั้ง ปัจจุบันทีมอยู่ภายใต้การคุมทัพของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือชาวออสเตรียที่เพิ่งเข้ามารับงานในปี 2024 และพาทีมทำผลงานได้น่าประทับใจในช่วงเวลาสั้น ๆ