ค่ำคืนที่ปารีสกลายเป็นอีกหนึ่งบทแห่งความผิดหวังของแฟนบอลอาร์เซนอล เมื่อทีมรักต้องโบกมือลายูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ หลังพ่ายปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-2 ที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ รวมสองนัดเปแอสเชชนะ 3-1 ส่ง “ปืนใหญ่” ตกรอบอย่างเจ็บปวด พร้อมทิ้งสถิติที่ไม่มีใครอยากจดจำ
อาร์เซนอลเริ่มเกมด้วยความมุ่งมั่น กดดันเจ้าถิ่นอย่างหนักแต่ไม่อาจเจาะตาข่ายจานลุยจิ ดอนนารุมม่าได้ ก่อนจะถูกฟาเบียน รุยซ์ซัดประตูสุดสวยให้เปแอสเชนำในนาที 27 ช่วงครึ่งหลัง แม้ดาบิด รายาจะเซฟจุดโทษของวิตินญ่าได้ แต่เพียงไม่นาน อาชราฟ ฮาคิมี ก็มาซัดประตูที่สองให้เจ้าถิ่น สถานการณ์ของปืนใหญ่ยิ่งยากขึ้นไปอีก
แม้บูกาโย่ ซาก้าจะตีไข่แตกให้ทีมในนาที 76 และมีโอกาสทองอีกครั้งแต่ยิงข้ามคานอย่างน่าเสียดาย สุดท้ายอาร์เซนอลก็ไม่อาจสร้างปาฏิหาริย์ได้ ต้องยอมรับความพ่ายแพ้และจบเส้นทางยุโรปในรอบรองฯ เป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2006
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้อาร์เซนอลยังคงไร้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกตลอด 70 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ขณะที่ยูโรปาลีกก็ยังไม่เคยสัมผัสถ้วยนี้เลยตลอด 54 ปี ส่วนถ้วยในประเทศอย่างลีกคัพก็ต้องย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 1992-93 ที่ทีมคว้าแชมป์ครั้งสุดท้าย พรีเมียร์ลีกเองก็ห่างหายจากแชมป์ตั้งแต่ยุค “อินวิซิเบิลส์” ปี 2003-04 ส่วนเอฟเอคัพ แม้จะเคยเป็นเจ้าของสถิติแชมป์มากสุด แต่ครั้งล่าสุดต้องย้อนไปถึงปี 2020
นอกจากนี้ อาร์เซนอลยังมีโอกาสจบอันดับรองแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความสม่ำเสมอแต่ก็ยังขาดความเฉียบขาดในเกมตัดสิน
มิเกล อาร์เตต้า คือชายผู้แบกความหวังของแฟนปืนใหญ่ยุคใหม่ อดีตกองกลางชาวสเปนรายนี้เคยเป็นกัปตันทีมอาร์เซนอลในยุคเปลี่ยนผ่าน ก่อนจะกลับมารับงานผู้จัดการทีมในปี 2019 หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์โค้ชจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ในฐานะกุนซือ อาร์เตต้านำอาร์เซนอลคว้าแชมป์เอฟเอคัพและคอมมูนิตี้ชิลด์ตั้งแต่ปีแรกที่คุมทีม กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในรอบกว่า 30 ปีที่คว้าแชมป์ใหญ่ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก เขายังพาทีมกลับสู่ท็อปโฟร์และลุยแชมเปียนส์ลีกอีกครั้งหลังห่างหายไปหลายปี รวมถึงสร้างทีมพลังหนุ่มที่เล่นฟุตบอลได้อย่างเร้าใจ
แต่เส้นทางของอาร์เตต้าในเกมน็อกเอาต์ยุโรปยังเต็มไปด้วยบททดสอบ อาร์เซนอลตกรอบรองฯ ทั้งยูโรปาลีกและแชมเปียนส์ลีกในยุคของเขาหลายครั้ง แม้จะได้รับคำชมเรื่องพัฒนาทีมและสไตล์การเล่น แต่ความสำเร็จในระดับสูงสุดยังคงรอวันมาถึง
“ผมไม่คิดว่ามีทีมไหนในรายการนี้ที่ดีกว่าเรา แต่ฟุตบอลคือเรื่องของรายละเอียดเล็กๆ ในกรอบเขตโทษ และผู้รักษาประตูของพวกเขาคือคนที่สร้างความแตกต่าง”
