หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้คือ "บุ๋มบิ๋ม" ชัชชุอร โมกศรี หัวเสาทีมชาติไทยวัย 24 ปี ที่ทำผลงานสุดยอดด้วยการทำคะแนนรวมถึง 28 คะแนน แบ่งเป็นเกมรุก 25 คะแนน บล็อก 1 คะแนน และเสิร์ฟเอซอีก 2 คะแนน ผลงานของเธอไม่เพียงแต่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถระดับโลกที่เธอสะสมมาตลอดเส้นทางการเล่น
ย้อนกลับไปในเส้นทางชีวิตของชัชชุอร เธอเริ่มต้นเล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่อายุยังน้อย และได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากโรงเรียนกีฬาในจังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ทีมชาติไทยในปี 2016 ด้วยวัยเพียง 16 ปี ความโดดเด่นของเธออยู่ที่ความคล่องตัว การโจมตีที่เฉียบคม และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ในสนาม
หลังจากสร้างชื่อเสียงในลีกประเทศไทย ชัชชุอรได้รับโอกาสไปเล่นในลีกต่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงลีกเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้เธอพัฒนาทักษะและความเข้าใจเกมในระดับสูง จนกระทั่งได้เข้าร่วมทีม "วิกโตรินะ ฮิเมจิ" ในฤดูกาลล่าสุด
การแข่งขันวอลเลย์บอลถ้วยจักรพรรดินี ญี่ปุ่น (Emperor's Cup and Empress's Cup All Japan Championships 2024) ในวันที่ 21 ธันวาคม 2567 กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการวอลเลย์บอล เมื่อทีม "วิกโตรินะ ฮิเมจิ" สามารถคว้าชัยชนะเหนือทีมแกร่งอย่าง "ฮิซามิสึ สปริงส์" ด้วยสกอร์พลิกล็อก 3-2 เซต หลังจากถูกนำไปก่อนถึง 2 เซตแรก (9-25, 23-25, 25-15, 25-20 และ 15-13) การคว้าแชมป์ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมขึ้นมา
สำหรับแฟนวอลเลย์บอลทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทย ชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของถ้วยรางวัล แต่ยังสะท้อนถึงความสามารถและความทุ่มเทของนักกีฬาไทยอย่างชัชชุอร โมกศรี ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและยกระดับมาตรฐานของนักกีฬาไทยบนเวทีระดับโลกได้อย่างแท้จริง
