ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024/25 เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 14 และเกมที่ทุกคนรอคอยคือ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่จะฟาดแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคมนี้ เวลา 23.30 น. ณ สนามท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้การนำทีมของกุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกลู กำลังเผชิญกับความท้าทายที่หนักหนา นักเตะตัวหลักหลายคนต่างมีปัญหาทั้งอาการบาดเจ็บและการโดนแบน ตั้งแต่ กูเยลโม วิคาริโอ นายทวารมือหนึ่ง, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, คริสเตียน โรเมโร่, ริชาร์ลิซอน ไปจนถึง โรดริโก้ เบนตานคูร์ ที่ติดโทษแบน ทำให้ฟอร์มของทีมไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ปัจจุบันยังเกาะอยู่โซนกลางตาราง
ปอสเตโคกลู เป็นโค้ชชาวออสเตรเลียคนแรกที่ได้คุมทีมในพรีเมียร์ลีก ด้วยประสบการณ์ที่เริ่มต้นจากการคุมทีมชาติออสเตรเลียและสร้างชื่อจากการพา เซลติก คว้าทริปเปิลแชมป์ในสกอตแลนด์ ความสามารถในการดึงศักยภาพของนักเตะดาวรุ่งให้โดดเด่นเป็นสิ่งที่เขาได้รับการยอมรับ แต่ความท้าทายกับสเปอร์สในฤดูกาลนี้ถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่ากุนซือวัย 58 ปีรายนี้จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้แค่ไหน
ในขณะที่ฟอร์มของสเปอร์สยังไม่เข้าที่ เชลซีกลับมาพร้อมกับฟอร์มที่ร้อนแรง โดยชัยชนะ 5-1 เหนือเซาแธมป์ตันในนัดล่าสุดส่งผลให้ทีมไม่แพ้ใครในลีกมา 6 นัดติด (ชนะ 4 เสมอ 2) ปัจจุบันพวกเขารั้งรองจ่าฝูงของตาราง ด้วยผลงานลงเล่น 14 นัดเก็บได้ 28 คะแนน ห่างจากจ่าฝูงลิเวอร์พูลเพียง 7 แต้มมาเรสก้า อดีตผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับการแต่งตั้งให้คุมเชลซีในฤดูกาลนี้ ด้วยสไตล์การทำทีมที่เน้นการครองบอลและสร้างเกมรุกที่ดุดัน ทำให้เชลซีกลายเป็นทีมที่อันตรายและมีความสมดุลมากขึ้น
การพบกันระหว่างทั้งสองทีมในทุกรายการรวม 177 นัดที่ผ่านมา เชลซีเป็นฝ่ายครองสถิติดีกว่า ด้วยชัยชนะ 79 ครั้ง เสมอ 42 ครั้ง และสเปอร์สชนะเพียง 56 ครั้ง โดยในการเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชลซีเอาชนะได้ทั้งเหย้าและเยือน ด้วยสกอร์ 4-1 และ 2-0 แม้ว่าสถิติจะเข้าข้างเชลซี แต่ลอนดอน ดาร์บี้คือเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความไม่แน่นอน การดวลกันครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแย่งชิง 3 แต้ม แต่ยังเป็นการพิสูจน์ตัวตนของทั้งสองทีมในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แฟนบอลทั่วโลกห้ามพลาด เพราะเกมนี้ไม่ใช่แค่ศึกในสนาม แต่ยังเป็นการต่อสู้เชิงกลยุทธ์ของสองกุนซือที่ต่างมีสไตล์เฉพาะตัว!