อาทิตย์นี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในศึกใหญ่พรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา คือการหยุดยั้ง "ราชาแห่งอียิปต์" โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นักเตะที่สร้างชื่อในฐานะหนึ่งในแข้งระดับตำนานของพรีเมียร์ลีก
สถิติที่ตอกย้ำความยิ่งใหญ่
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีสถิติที่น่าทึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับแมนฯ ซิตี้ โดยยิงไป 11 ประตูและทำแอสซิสต์อีก 6 ครั้งจากการลงเล่น 21 นัดกับทีมดังแห่งเอติฮัด สเตเดียม ประตูเดี่ยวสุดอลังการที่เขายิงในเกมเสมอ 2-2 เมื่อเดือนตุลาคม 2021 ยังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในประตูที่ดีที่สุดของเขาในสีเสื้อลิเวอร์พูล
ในวัย 32 ปี ซาลาห์ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นระดับโลกของเขาไว้อย่างต่อเนื่อง โดยในฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้ว 10 ประตู และทำแอสซิสต์อีก 6 ครั้งจาก 12 เกมในพรีเมียร์ลีก ซึ่งทำให้เขามีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ลีกที่ทำได้ถึงสองหลักทั้งในด้านการยิงประตูและแอสซิสต์ใน 6 ฤดูกาลแยกจากกัน
ความสม่ำเสมอที่เหนือชั้น
สิ่งที่ทำให้ซาลาห์โดดเด่นเหนือใครไม่ใช่เพียงทักษะอันยอดเยี่ยม แต่คือความสม่ำเสมอและความฟิตที่น่าทึ่งของเขา ตั้งแต่ย้ายมาลิเวอร์พูลในปี 2017 ซาลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไม่ต่ำกว่า 18 ลูกในทุกฤดูกาล ซึ่งไม่เพียงแค่สะท้อนถึงพรสวรรค์ แต่ยังแสดงถึงความทุ่มเทในการดูแลสภาพร่างกายและการพัฒนาตัวเอง
เจอร์เก้น คล็อปป์ กล่าวไว้ในปี 2023 “เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของลิเวอร์พูล” และเจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูลก็เสริมว่า “ซาลาห์อยู่ในระดับเดียวกับตำนานอย่างเธียร์รี อองรี”
ในขณะที่แฟนบอลยังคงชื่นชมผลงานของซาลาห์ในถิ่นแอนฟิลด์ หลายคนตั้งคำถามว่าเขาได้รับการยอมรับในระดับโลกเพียงพอหรือไม่ คำตอบนั้นอาจเชื่อมโยงกับความไม่แน่นอนของรางวัลระดับบุคคล เช่น บัลลงดอร์ ซึ่งซาลาห์มักไม่ได้รับการพิจารณาเท่าที่ควร แม้เขาจะมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม
คาร์ราเกอร์ให้ความเห็นว่า “มันคล้ายกับราอูลที่เรอัล มาดริด แม้จะมีความสม่ำเสมอและผลงานที่ยอดเยี่ยมทุกปี แต่เขาก็ไม่เคยได้รางวัลสูงสุดอย่างบัลลงดอร์ เพราะมักจะมีนักเตะที่ฉายแสงโดดเด่นในแต่ละปี แต่ในแง่ของความต่อเนื่องและอิทธิพลต่อทีม ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของซาลาห์ได้”
จากบาเซิลถึงลิเวอร์พูล เส้นทางของตำนาน...
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพในยุโรปกับบาเซิล ทีมดังจากสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนย้ายไปเชลซีในปี 2014 แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาก็ฟื้นฟูตัวเองในเซเรียอา กับฟิออเรนตินาและโรมา และในที่สุด การย้ายมาลิเวอร์พูลในปี 2017 ก็เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
ในฤดูกาลแรกกับลิเวอร์พูล ซาลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไปถึง 32 ลูก ทำลายสถิติของลีกในยุคนั้น และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองที่เขาพาทีมคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกในปี 2019 และแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2020
ไม่ว่าจะเทียบกับอองรี, อลัน เชียเรอร์ หรือคริสเตียโน โรนัลโด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทั้งในแง่ของสถิติ ความสม่ำเสมอ และผลกระทบต่อทีม
เกมที่แอนฟิลด์สุดสัปดาห์นี้จะเป็นอีกบททดสอบของซาลาห์ หากเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้เหนือความคาดหมายอีกครั้ง นั่นจะยิ่งเสริมสร้างตำแหน่งของเขาในฐานะตำนานที่ยังโลดแล่นอยู่ในเกมลูกหนังวันนี้